ติดตั้งระบบกันขโมยภายนอกของ Vanguard

ทุกวันนี้ซื้อบ้านซักหลังก็ต้องมาปวดหัวเรื่องขโมยถูกไหมครับ
ต่างกับการที่ซื้อคอนโดเรามีระบบส่วนกลางดูแลให้ ค่อนข้างจะอุ่นใจ
แต่การมีบ้านสักหลังนี่มันเป็นอะไรที่ยุ่งยากไปอีกขั้นทีเดียว
ความจริงแล้วบ้านผมไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไรหรอก
แต่ผมคิดว่าชีวิตคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดครับ ให้ขโมยเข้าบ้านได้
จะแน่ใจได้ยังไงว่า มันจะเอาแต่ทีวี แล้วไม่ทำอะไรคนที่อยู่ในบ้าน

ดังนั้นโจทย์ของผมคือ ต้องติดเพื่อปกป้องคนในบ้านเป็นหลัก ไม่ใช่ทรัพย์สิน
คนอื่นที่โจทย์ต่างกัน ก็เป็นธรรมดาที่จะคิดไม่เหมือนกันครับ อย่าซีเรียสนะ ฮ่าๆ
ในมุมมองของคนที่งบประมาณจำกัด เราก็ต้องมาเลือกว่าจะลงทุนอุปกรณ์กันขโมยในสิ่งใดดีที่สุด
(ถ้าคุณงบไม่จำกัดก็ทำๆไปเถอะครับ)
งบประมาณผมมีอยู่สักประมาณ 35k - 40k

ระหว่าง
1. เหล็กดัด
2. สัญญาณกันขโมย
3. กล้องวงจรปิด

ถ้าเราเลือกคุณภาพที่น่าเชื่อถือ สามสิ่งนี้ค่อนข้างจะราคาใกล้เคียงกัน
(ความจริงเหล็กดัดนี่แพงกว่าเพื่อนนะครับ ถ้าเป็นเหล็กหนาๆ)

ก็หาข้อมูลสักพัก เปรียบเทียบกันในแต่ละประเภทแล้ว สรุปได้ว่า

เหล็กดัด
โดยส่วนตัวผมไม่ชอบ อุตส่าห์ซื้อบ้าน modern กระจกเยอะ บ้านโปร่ง
ติดเหล็กดัดปั๊บกลายเป็นเหมือนอยู่ในคุกทันที หมดความงดงาม อันนี้ในเชิง emotional
ความจริงด้าน functional ก็ไม่ตอบโจทย์ครับ เวลามีคนอยู่ในบ้าน 
ก็คงไม่ได้ล็อคเหล็กดัดตลอดเวลา ดังนั้นเผลอๆ โจรก็ย่องเข้าบ้านได้ครับ
(อย่าคิดว่าโจรมันจะย่องมาแค่กลางคืน เพื่อมาฉกของครับ พวกข่มขืนก็เยอะ)
แล้วเดี๋ยวนี้เวลาคุณไปข้างนอกถึงแม้จะล็อคเหล็กดัด คีมตัดเหล็กตัดได้สบายมากครับ เสียเวลาไม่นาน
ในความคิดผม เหล็กดัดไม่ได้มีความหมายอะไรเลย จึงข้ามไปอย่างรวดเร็ว

กล้องวงจรปิด
อันนี้ก็พิจารณาได้ไม่นานตามโจทย์ กล้องปกป้องอะไรไม่ได้ครับ ได้แค่เรียกดูเมื่อเหตุมันเกิด
แล้วถ้าโจรคลุมหน้า กล้องก็ดูไม่รู้แล้วครับว่าเป็นใคร ติดไปผมก็รู้สึกไม่เกิดประโยชน์

ก็เหลือแต่ สัญญาณกันขโมย นี่แหละครับ
ติดที่ว่าเสียงดังหน่อย กลัวจะรบกวนเพื่อนบ้านถ้ามันดังแบบสุ่มสี่สุ่มห้า จะก่อความรำคาญซะเปล่าๆ
คราวนี้ผมก็เลยศึกษาอย่างจริงจังว่าแบบไหนถึงจะดีรวมถึงยี่ห้อที่ไว้ใจได้

โดยทั่วๆไปสัญญาณกันขโมยที่ขายในไทย ก็จะมีการทำงานหลักๆ 2 แบบ
1. PIR Infrared: จับความเคลื่อนไหวในบ้าน sensor จะกวาดพื้นที่คล้ายๆรูปพัด
บางเจ้า advance หน่อยจะสามารถแยกระหว่างสัตว์เลี้ยงกับคนได้
2. Magnetic Switch: อันนี้ง่ายๆครับติดที่ประตูหรือหน้าต่าง คู่กันระหว่างบานเปิดและวงกบ
ถ้าเปิดประตู Sensor จะรับรู้ได้ว่าแยกออกจากกัน

Sensor อย่าง PIR นี่มีความละเอียดอ่อน เพราะเป็นการจับที่ต้องแยกแยะสิ่งมีชีวิต
กับสิ่งของออกจากกัน ยิ่งถ้ามีระบบแยกสัตว์เลี้ยงด้วยแล้ว
ควรจะพิจารณาใช้ของมีคุณภาพหน่อยครับ ไม่งั้นเกิด Fault Alarm (เสียงดังโดยไม่มีสาเหตุ)
จะทำให้ความน่าเชื่อต่ำเอาเปล่าๆ เพื่อนบ้านหรือยามก็จะไม่สนใจแล้ว ก่อความรำคาญด้วย
ดังนั้นจะลงทุนทั้งทีก็อย่าเหงียมครับ ศึกษาให้ดี และเอาของที่ไว้ใจได้จริงๆ

สังเกตุไหมครับ ที่ว่ามาทั้งหมด ก็ยังไม่ตอบโจทย์ผมซะทีเดียว
1. PIR นี่จับสัญญาณในบ้าน คือต้องมีขโมยเข้าบ้านก่อนนะ สัญญาณถึงจะดัง
ถ้าเราอยู่ในบ้านก็เปิดใช้งานไม่ได้อยู่แล้ว

2. Magnetic Switch อันนี้ยังพอ OK เหมือนจะกันตั้งแต่ก่อนเข้าบ้าน แต่ข้อเสียคือ เวลาเปิดทำงาน
ต้องปิดประตู หน้าต่างทุกบานน่ะสิครับ ถ้าอยู่ในบ้านเปิดได้ก็จริง
แต่คงร้อนตายข้างใน เพราะห้องนั่งเล่นผมยังไม่ได้ติดแอร์

จนมาเจอระบบกันขโมยภายนอกของ Vanguard ครับ
นับว่าโดนผมอย่างแรง เพราะเป็นการกันตั้งแต่โจรบุกรุกเข้ามาในบ้าน
อยู่ในบ้านก็เปิดสัญญาณได้ ขอแค่ไม่ออกไปข้างนอก เปิดหน้าต่าง หรือประตูบานเลื่อนได้สบายๆ
ทั้งนี้เมื่อสัญญาณดังสามารถโทรเข้าหาเบอร์ที่ระบุผ่านระบบโทรศัพท์บ้านได้ด้วยครับ

แต่ราคานี่สิได้ข่าวว่าแพงกว่าระบบทั่วๆไปอยู่พอสมควร แต่คุยๆกับเซลส์ผ่านเว็บ
โดยผมใช้ระบบ chat และส่น plan บ้านให้ลองออกแบบและเสนอราคาดูครับ ที่

นับว่า vanguard ดีมากที่มีระบบ chat ครับ เพราะการจะให้เซลส์มาที่บ้าน เพื่อมาคุยกันเรื่องราคานี่เราก็จะไม่กล้า กลัวว่าเดี๋ยวเค้ามาเสียเที่ยว ราคามันแพงไปจะเคืองกันเปล่าๆ

วิธีนี้ทำให้เราได้รู้ราคาคร่าวๆโดยไม่ต้องเสียเวลามากครับ พอได้ราคามาปั๊บ
เอ๊ะก็อยู่ในงบนะ น่าสนใจทีเดียว ก็เลยนัดเซลส์มาคุยพร้อมสาธิตอุปกรณ์เลยครับ

เซลส์ที่ deal กับผมคือคุณประยูร แกอธิบายได้ชัดเจนและ take care ดีมากครับ มาตรงเวลาเลยทีเดียว
มีอุปกรณ์มาสาธิตพร้อม ในครั้งนี้ผมให้พ่อกับแม่มาฟังด้วยครับ เพราะท่านค่อนข้างจะ anti อยากให้ใช้เหล็กดัดมากกว่า ก็เลยให้รู้กันว่าระบบมันเป็นยังไง เหล็กดัดมีจุดอ่อนตรงไหน
คุยกันเรื่องอุปกรณ์ และตำแหน่งที่ติดโดยละเอียด ใช้อุปกรณ์ตามนี้ครับ

ราคาสิริรวม 35,650 มีอุปกรณ์ให้ดังนี้
1. ชุด Control กลาง + รีโมท 2 ตัว ต่อสายโทรศัพท์บ้าน โทรเข้าเบอร์ที่เซ็ตไว้ได้
2. Siren ภายนอกมีไฟแว่บๆ กลมๆสีแดง
3. Sensor ภายนอก 3 ตัว
4. Sensor Magnetic ติดบานหน้าต่าง 1 ตัว
5. Sensor PIR จับความเคลื่อนไหวในบ้าน 1 ตัว

ตอนแรกทางเซลล์เขาก็จัดเต็มเยอะกว่านี้ครับ แต่มันเกินงบไปผมไม่ไหว
เค้าเลยลดลงมาเหลือแค่อันที่ critical จริงๆ อุปกรณ์ที่เหลือติดทีหลังได้ครับ เค้าไม่คิดค่าติดตั้งเพิ่ม
ดูเหมือนแพงใช่ไหมครับ แต่ลองเทียบกับเหล็กดัดนะครับ 
บ้านข้างๆผมชั้นล่างอย่างเดียวก็เสียไป 60k แล้ว

มาถึงวันติดตั้งครับ ทีมงานมากันเยอะทีเดียว
เริ่มจากตัว Sensor ภายนอกกันก่อนเลยครับ วัดระดับที่เหมาะสมสำหรับ sensor

เริ่มเจาะ ยึดตัว sensor

แป๊บเดียวก็เสร็จครับ หน้าตา sensor ภายนอกประมาณนี้ 
ไฟแดงคือตรวจจับได้ว่ามีคนบุกประชิดประตูอยู่ครับ อิๆ

กันน้ำกันฝุ่นครับ ถ้าโดนทำลายจะส่งสัญญาณดังออกมาทันที 
ระยะทำการ sensor มี logic ในการแยกแยะสัตว์ต่างๆและคนครับ 
ไม่ต้องกลัวว่านก หมา แมว ผ่านแล้วจะร้อง

มาดูที่ Siren กันครับ ตัวนี้แหละจะส่งเสียง 20db (มั้ง) และมีไฟกระพริบ 
ดังแสบหูเลยครับ ถ้าอยู่ในบ้านนะ แต่ข้างนอกก็ไม่ถึงกะก่อความรำคาญให้เพื่อนบ้านเท่าไรนะ
ทางช่างก็เลือกตำแหน่งเกร๋ๆ ให้ดูเหมือนเป็นของแต่งได้อย่างลงตัว

มาที่ภายในกันครับมีการปูหนังสือพิมพ์ให้เรียบร้อย จุดนี้จะเป็นการติดตั้งตัว control หลักครับ

เจาะปั๊บ เฮ่ยปูนแตก แต่ทางทีมก็ยังเตรียมปูนโป๊วไว้ให้ครับ พอกลบรอยได้ ก็ยังโอเค

Update 31/05/14
ถ่ายภาพ PIR ที่ติดตั้งในห้องนั่งเล่นมาให้ดูครับ เกิดแจ็คพ็อตเข้ามาในบ้านได้ก็ยังติดเจ้าตัวนี้อยู่ดีครับ
แต่ PIR นี้เวลาเปิดระบบ Home จะไม่ทำงาน ทำให้เรายังใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้ปกติครับ
ขาวเนียนไปกับฝ้าได้ดีทีเดียว

อันนี้คือแผงควบคุมหลักครับ ตัวใหญ่ใช้ได้เลย

เราสามารถกดสั่งงานที่นี่หรือผ่าน remote ที่คล้ายๆรีโมทกันขโมยรถยนต์ครับ
ระบบ Home ก็สามารถเปิดที่ remote ได้เหมือนกันนะ

คราวนี้มาถึงจุดปัญหาครับ เรื่องการเชื่อมสัญญาณโทรศัพท์
(ผมติดตั้งระบบกันขโมยไปก่อนโดยที่ยังไม่ต่อสายโทรศัพท์)
เนื่องจากระบบโทรศัพท์บ้านเดี๋ยวนี้ขอยากเย็นเหลือเกินครับ ไม่ค่อยจะมีชุมสายในหมู่บ้านใหม่ๆแล้ว
ถึงมีชุมสายก็อยู่ไกลครับ ถ้าติดโทรศัพท์บ้านอย่างเดียว เสียเงินค่าติดไปประมาณสองพัน
และก็จะต้องเสียค่าลากสายไปสามพันกว่าบาท เพราะต้องไปพ่วงจากชุมสายหมู่บ้านข้างๆ
 เกินไปไหมครับ กะอีแค่โทรศัพท์บ้านเนี่ยนะ
ถ้าไม่อยากเสียเยอะ ก็ต้องติด Internet Adsl พ่วงด้วยครับ ติดตั้งทั้งเบอร์บ้านและเน็ตฟรี
แต่ก็ติดสัญญาค่าบริการไป 1 ปีแทน แต่ว่านะ ค่าลากสายก็ยังต้องเสียอยู่ดีครับ
แถมลากสายโทรศัพท์ยาวขนาดนั้น สายโทรศัพท์โดนรบกวนง่าย ความเร็วก็ไม่เสถียรอยู่ดี

Update : 03 July '18 ผมเปลี่ยนเน็ตบ้านเป็น AIS Fibre ก็สามารถใช้ VOIP ที่มากับสาย fiber ก็ใช้งานได้ปกตินะครับ

ผมจึงรอจนกว่าจะมีทางเลือกใหม่ๆ และฟ้าก็เป็นใจครับ True Cable Docsis เข้ามาโปรด
ลาก Node เข้ามาถึงทุกซอยในบ้านเลยทีเดียว
เรื่องเน็ตไม่น่าห่วง ห่วงแต่เรื่องโทรศัพท์บ้านที่จะเข้าสัญญาณกันขโมยแล้วนี่สิ
ถามทาง True ก็ทราบว่า มีระบบโทรศัพท์ Fix Line ที่ออกมาจากสัญญาณ Internet ครับ
โดยจะเป็นสายสัญญาณที่ออกจาก Router ทำตัวเหมือนโทรศัพท์บ้านทุกอย่าง
แต่แค่ต้องเปิด Router ไว้ตลอดเวลาครับ ไม่งั้นโทรศัพท์จะใช้ไม่ได้
ผมถามทาง Vanguard ว่าใช้ได้ไหม ทางเค้าไม่แน่ใจ บอกว่าถ้าใช้ Fax กับสายนี้ได้ ก็ใช้กับกันขโมยได้
เมื่อทาง True ยืนยันว่าต่อได้ ผมก็จัดการติดตั้งเลยครับ

หลังจากติดตั้งก็จะมี Router ตัวสีดำตามที่เห็นด้านล่างซ้ายครับ

สาย Jack โทรศัพท์ก็จะออกจากตูด Router ครับ

อนึ่ง Jack สายโทรศัพท์บ้านผมมีการฝังเต้ารับและเดินสายภายในไว้กับโครงสร้างภายในอยู่แล้ว
โดยมีตัว main อยู่ในจุด maintenance กลางครับ คราวนี้ผมก็มาลุ้นล่ะ
ว่าต่อสัญญาณโทรศัพท์จาก router เข้าไปดื้อๆในห้องนั่งเล่นแบบนี้จะใช้ได้ไหมนะ
(กลัวว่ามันจะต้องต่อ input ที่จุด maintenance น่ะครับ)
ก็ปรากฎว่าใช้ได้ โชคดีที่ผมตัดสินใจถูกที่เลือกจุดวาง Router อยู่ใกล้ๆเต้าเสียแจ๊คโทรศัพท์
เลยไม่ต้องลากสายโทรศัพท์ยาวขึ้นชั้นสองเข้าตัว Control หลักครับ เสียบปั๊บ มันเชื่อมกันหมดเลย
โล่งอกไปเปลาะใหญ่ สายโทรศัพท์ที่เค้า Jump รอไว้ที่ตัว Control หลักทำงาน โอ้ เย!
แล้วถ้าใครจะต่อโทรศัพท์บ้านที่จุดนี้อีก ก็ไม่ต้องกังวลครับ
ไปซื้อตัวแยกสามทางอันละไม่กี่สิบบาทมาได้เลย มีขายตาม Homepro
โดยเจ้าตัวนี้จะทำการแยก Input  สายโทรศัพท์จาก Router ให้ออกมา 2 ทาง
ก็จะสามารถใช้โทรศัพท์บ้านได้ตรงจุดที่วาง Router แล้วครับ
คิดว่าบทความนี้คงช่วยคลายความกังวลคนที่ซื้อบ้านใหม่แล้วกังวลเรื่องการติด Fix Line แบบผม

เท่าที่ใช้งานมา 2-3 เดือน ถือว่าดีมากครับ ไม่มี fault alarm และเตือนจริง 
เมื่อมีการเข้าใกล้ประตูหรือหน้าต่างที่อยู่ในรัศมีของระยะทำการ 
เพราะดันลืมไปว่าเปิดสัญญาณอยู่หลายครั้งครับฮ่าๆ ดันโง่เอง

หลายคนอาจจะมองว่าแพงจัง แต่ผมก็แปลกใจครับ ราคาเท่านี้ เราซื้อคอม laptop, mac
ไม่เห็นบ่นอะไร แต่นี่เป็นสิ่งที่ใช้ปกป้องชีวิตเรานะครับ ประเมิณค่าได้หรือ
แม้ว่ามันดัง แล้วเพื่อนบ้านหรือยามในหมู่บ้านไม่สนใจก็ไม่เป็นไรครับ 
ผมบอกแล้วว่าโจทย์ผมคือปกป้องคนในบ้านเป็นหลัก

อย่างน้อยคนในบ้านก็รู้ตัวว่ามีคนกำลังจะเข้าบ้านนะ จากนอนอยู่ก็ต้องตื่นมาระวังตัวอะ
เกิดเรื่องขึ้นมาเราก็ย้อนเวลาไม่ได้นะครับ ปลอดภัยไว้ก่อน

เดี๋ยวนึกอะไรออกจะมา update เรื่อยๆครับ ถือว่าเป็นข้อมูลให้คนที่กำลังพิจารณาสัญญาณกันขโมย :)

ความคิดเห็น

  1. รบกวนสอบถามค่ะ สนใจติดกันขโมยนอกบ้านของ vanguard แบบนี้ ไม่ทราบว่ามีปัญหาการใช้งานอะไรมั้ยคะ คือเรากลัวเรื่อง false alarm มาก เช่นจากการที่แมวจรกระโดดผ่าน หรือมีปัญหาเรื่องบริการหลังการขายมั้ยคะ ฝากแนะนำด้วยค่ะ มือใหม่มาก

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม