Uk trip (2/3) : Road trip to Oxford and Bicester



รอบนี้ก็จะมาเล่าเรื่องที่ได้ขับรถไปนอกเมืองกันบ้าง หลังจากที่ตอนที่แล้วอยู่แต่ในตัว London นะครัช ยาวอีกเช่นเคยเพราะจะรีวิวตั้งแต่การเช่ารถเลย สงสัยจะต้องมีตอนเพิ่มอีก เพราะไปยาวซะตอนการเช่ารถนี่แหละ

1. ถ้าไปเที่ยว 2 คนขึ้นไป ก็ควรจะเช่ารถขับแล้วนะ เพราะค่ารถไฟไปต่างเมืองค่อนข้างแพง ก็ไม่เข้าใจว่าเค้าไม่สนับสนุนการใช้ Public Transport เหรอ ฮ่าๆ

2. การเช่ารถก็เช่าจาก app easyrentalcar ก็ได้ รวบรวมหลายๆเจ้าให้เทียบราคา ค่อนข้างมี ui ที่ใช้ง่ายกว่าการใช้เว็บเช่ารถอื่นๆ เลือกประเภทรถได้ละเอียด หลายๆเว็บที่ป็นบริษัทรถโดยตรง มีแต่ให้เลือกขนาด คือกุก็ไม่รุว่า size S,M,L บ้านมันนี่คือระดับไหนไง สามารถเอา reference link ไปใช้ได้นะคับ คุณได้ส่วนลด ผมก็ได้ส่วนลด win-win ทั้งคู่นะ อิๆ :P https://m.easyrentcars.com/share/107788068

3. ให้เช่าจาก app โดยไม่ต้องซื้อประกันเพิ่ม แล้วไปซื้อประกันแบบเต็มที่ counter รับรถแทน แม้ประกันที่ซื้อจาก app จะถูกกว่าพอควร แต่คุณจะโดนเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ว่าต้องจ่ายก่อนน้า ไปเบิกเอง เค้าไม่รับผิดชอบน้า แต่ถ้าซื้อกะเคาน์เตอร์ก็ไม่ต้องห่วงอะไรเลย คืนรถปั๊บจบไม่ต้องเช็ครอยใดๆ แถม deposit ก็ไม่เยอะ เชื่อเถอะหลายๆคนทนแรงกดดันไม่ไหวต้องจ่ายเบิ้ลกันเยอะ แต่ถ้าใจแข็งพอ (แบบผม) ก็ปฏิเสธไปอย่างกล้าแกร่งว่าไม่เอา มีแล้ว

4. ผมเช่ากับ AVIS ผ่าน app น่ะแหละ เจ้าหน้าที่ที่ไปติดต่อค่อนข้างโอเค ไม่ upsell มาก คงเพราะใช้รถค่อนข้างใหญ่อยู่แล้วด้วย รถที่ผมได้คือ Citroen C4 Space Tourer เป็นรถ MPV 7 ที่นั่ง เรานั่ง 5 คนก็พับเบาะหลังสุด ยัดกระเป๋าเดินทาง 30 นิ้ว 4 ใบ ใบกลาง 1 ใบเต็มพอดีอาจจะบังกระจกหลังหน่อยๆ นั่ง 5 คนสบายๆ รถค่อนข้างใหม่ feature ก็ค่อนข้างล้ำ มี android auto, auto power tail gate, กล้องมองหลัง + sensor รอบคัน, cruise control, electronic parking brake เบาะนวดไฟฟ้าอีกตะหาก

5. เอ้อ แต่เป็นเกียร์กะปุกนะ (เกียร์ธรรมดา) ถ้าคุณขับเกียร์กระปุกได้ราคาจะถูกกว่าเกียร์ออโต้ 40% ได้เลยทีเดียว ประเภทรถก็มีให้เลือกเยอะกว่า

6. ราคาเช่ารถรวมประกันจาก app ตกวันละ 2,500 บาท

7. ทีนี้ตอนรับรถ ผมเลือกรับที่ London City Airport ซึ่งไม่ไกลจากที่พักมากนัก เพราะกะว่าไปรับรถกะน้องสองคน แล้วขับกลับมารับที่บ้านอีกทีจะได้ไม่ต้องลำบากลากกระเป๋า ที่พักผมอยู่ Zone 2 ก็เลยไม่ต้องกลัวเรื่อง Congestion Charge ดังนั้นถ้าใครจะทำวิธีนี้ก็เช็คเรื่องนี้ให้ดีครับ ว่ากลับมารับต้องฝ่า Zone 1 รึเปล่า

8. ตอนคืนรถก็ต้องคืนที่อื่นแล้ว เพราะผมกลับ Gatwick Airport แล้วเมืองสุดท้ายอยู่ที่ Reading ก็เลยต้องเลือกว่าจะคืนที่ไหนดี ถ้าคืน Reading ก็ต้องคืนวันก่อนบิน แล้วนั่งรถไฟจาก Reading ไป Gatwick แต่พอลองเทียบราคากัน คืนที่ Reading ราคาพอๆกับคืนที่ Gatwick ในวันถัดไปเลย อย่าลืมว่าค่ารถไฟแพงอย่างที่เคยบอก ดังนั้นไม่ลังเลที่จะขับรถไปคืนที่ Gatwick โดยพลัน

9. ขับรถใน London แม้จะอยู่ Zone 2 แต่วันธรรมดารถติดสาหัส แผนที่วางไว้ว่าจะไปถึง Oxford ตอนสายๆพังหมด คือกว่าจะได้ออกจากตัว London ก็เที่ยงแล้ว ขับรถไปถึง Oxford ตอนบ่าย 3 ได้

10. ระวังเรื่อง Speed limit ให้ดี เห็นหลายๆคนโดนกันเยอะ ที่ UK ก็ค่อนข้างจะมีกล้องจับเยอะ ที่นั่นเค้าก็ค่อนข้างเคร่ง รถแรงๆซิ่งมา ถึงจุด limit เค้าก็ชลอกันตามนั้นเลย โชคดีที่รถผมมัน detect speed limit ตามถนนมาโชว์ได้ ไม่งั้นคงมีเผลอไปหลายที

11. รถเกียร์กะปุกเดี๋ยวนี้เป็น 6 speed ลืมเปลี่ยนเกียร์ 6 ประจำตอนใช้ cruise control

12. วงเวียนเยอะมากกกกกก แทบจะมีแทนไฟแดง เค้าค่อนข้างเคร่ง เป็นระเบียบกว่าบ้านเราเยอะ ก็ศึกษาการขับเข้าวงเวียนใน UK ให้ดีนะครัช อย่าทะเล่อทะล่าใช้นิสัยบ้านเราก็ชนกันได้ง่ายๆ

13. ทีนี้มาว่าเรื่องการจอดรถ ที่จอดรถ London โดยมากจะเสียตังครับ ทำใจไว้ ฮ่าๆ บางทีจ่ายล่วงหน้า บางทีจ่ายทีหลัง ก็ต้องเช็คให้ดี

14. จ่ายทีหลังคือ รับบัตร ณ ตอนเข้าลานจอดรถ แล้วมากดจ่ายตังที่ตู้ตอนจะออก ใช้บัตรเครดิต/เดบิต แบบ paywave ได้นะคับ ส่วนมากที่จอดรถแบบนี้คืออยู่ในห้าง แนะนำว่าให้เลือกแบบนี้ก่อน ถ้าหาได้

15. จ่ายล่วงหน้าคือ เป็นลาน จอดรถ หรือจอดข้างทางแบบ Off-street เราไปจอดปั๊บ แล้วต้องกะเวลาก่อนว่าจะจอดสักกี่ ชม แล้วไปกดจ่ายตัง เสร็จแล้วเอาบัตรจอดรถที่เครื่องพ่นมาให้ไปวางๆแถวหน้ากระจกรถ วางในรถนะ! :D เพราะตำรวจจะมาเช็คตรงนี้แหละคับ ถ้าเป็นลานจอดใหญ่ๆก็ใช้บัตรได้เหมือนเดิม แต่ถ้าจอดข้างทาง เงินสด เหรียญแบบไม่ทอนและ app เท่านั้น แนะนำให้หาลานจอดใหญ่ๆเต๊อะ ค่าปรับถ้าจอดเกินแพงโคตรพ่อโคตรแม่ จ่ายเผื่อไว้ก่อนดีกว่านะ

16. แนะนำว่าตอน search หาที่เที่ยวใน google map ก็ให้ search parking ต่อไปเลย google map บนมือถือจะมีปุ่มให้ search parking ต่อ หรือ search parking ในบริเวณนั้นก็ได้ แล้วให้ navigate ไปลานจอดรถเลย

17. ตอนไปถึง Oxford ก็กะจะแวะไปดู Christ Church Cathedral มันจะมี Westgate car park ที่เป็นห้างใกล้ๆ เราขับไปจอดได้เลย เป็นแบบจ่ายทีหลัง เดินไป Christ Church ได้ เป็นต้น

18. แวะดมๆ แป๊บนึงก็ต้องออกแระ เพราะ "เมีย" และ "แม่" ต้องการไป outlet อย่างแรงกล้า เพราะ Oxford ไม่ได้กะจะพัก แค่แวะเฉยๆ ซึ่ง outlet ก็คือ Bicester Village ยอดนิยมของชาวไทยและจีนนั่นเอง ขับรถจาก Oxford ไปนอกเมืองอีกประมาณครึ่งชม

19. Bicester Village มีที่จอดรถให้เยอะมาก ไม่ต้องเป็นห่วง จอดฟรีด้วย ถึงปั๊บก็ยาวๆเลยคับ จนปิด T-T ในนั้นมีร้านอาหารพวกสเต็กรสชาติโอเค ไม่ต้องกังวลเรื่องหิว

20. ควรจะเผื่อเวลาก่อนปิดไว้สัก ชม เอาไว้ทำ Tax refund ที่นั่นเลย ต้องรอคิวนะค้าบ มีจำนวนเงินขั้นต่ำต่อ 1 ใบเสร็จถึงจะทำได้ ซึ่งจำไม่ได้แล้วแฮะ ต่ำกว่านี้เค้าจะให้ไปทำที่สนามบิน ต้องบอกพนักงานตอนซื้อของด้วยว่าจะทำ Tax Refund เค้าจะให้ใบเสร็จอีกแบบนึง ที่นี่จะคืนให้เป็นเงินสด เลือกเป็นเงินบาทได้ด้วยนะถ้าได้คืนจำนวนเยอะพอแต่เรทแลกเปลี่ยนไม่ค่อยดีเอาเป็นเงิน GBP ดีกว่าแหละ

21. แนะนำว่าให้ทำ Tax Refund ที่นี่ให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ไปทำที่สนามบินทีหลังจะลำบากกว่ามากๆ ไว้จะเล่าให้ฟังอีกตอนนึงนะ

22. ออกจาก Bicester เจอ Jackpot ที่รถเข้าให้ รถข้างๆน่าจะเปิดประตูไม่ระวัง ทำให้เกิดรอยลักยิ้มบุบเข้าไปที่ประตู เอาแล้วไง แสรดดดด ขับระวังแทบตายมาโดนเอาตอนนี้ นึกได้ว่าพนักงาน AVIS บอกว่ารอยบุบต้องลูบแล้วสะดุดกินเนื้อสีเข้าไป รอยขนแมวเล็กๆน้อยๆเค้าไม่นับ แล้วต้องมีขนาดเกิน 15mm มั้ง ให้ที่วัดมาด้วย ก็ไม่เกินนะ รอลุ้นเอาตอนคืนรถละกัน

23. ออกจาก Bicester ตอนเกือบ 3 ทุ่มมุ่งต่อไปยัง South Cerny ที่พักระหว่างทางเพื่อที่จะไป Bibury ต่อ ตอนออกพระอาทิตย์เพิ่งตกไม่นาน แต่กว่าจะขับไปถึง South Cerny นี่มืดตึ๊บ หาที่พักเกือบไม่เจอ ดีที่คนแถวนั้นมาช่วย ที่พักคล้ายๆเป็นบังกะโล ตากอากาศ แคบๆหน่อย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกโอเค ตอนเช้ามีเป็ดมาทักทาย อากาศดีมากสมเป็นย่านชนบท

จบแค่นี้ก่อนดีกว่า ยาวมากแระ เดี๋ยวตอนหน้าน่าจะจบได้แล้วกับการเยี่ยมเยี่ยนเมืองอื่นๆ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม