Unplanned Trip @ Hua-Hin


ที่จั่วหัวไว้เนื่องมาจาก Trip หัวหินที่ไปมากับแฟนนั้นไม่ได้ไปชื่นชมธรรมชาติ ทะเลชายหาด
หากแต่กะจะไปพักผ่อน แบบชิวๆ ขอแค่ไปให้ใกลจากกรุงเทพฯ สักหน่อยก็ดี
(แฟน noid ขั้นเทพฯ จนต้องพาไปสักแห่งเพื่อปิดปาก)


ที่จุดประเด็นมาเขียนบอกนี่ก็ไม่ใช่อะไร แค่อยากให้หลายๆคนสลัดภาพความสวยงาม แสนอร่อย
จากเว็บรีวิวต่างๆ โดยเฉพาะจากสังคมคุณภาพ พอได้เจอความจริงแล้ว ก็งั้นๆแหละว่ะ
มีความหลังจาก Trip ที่แล้วที่เพื่อนอาสาพาทัวร์หัวหิน ทั้งๆที่พักอยู่ที่ ปราณบุรี
ขับรถวิ่งเข้าหัวหินทุกวัน เหนื่อยชิบหอย สรุปกรูเหนื่อยกว่าไปทำงานอีก -_-"

แต่ไม่อยากว่ามันมากเพราะ มันก็แสนจะ Proud to present น่ะนะ 
เกิดวันดีคืนดีมัน search มาเจอ blog นี้จะพาลงอนส์เอาง่ายๆ


มะ เริ่มมาก็ตรงดิ่งไปที่ร้าน ปลาทู @ หัวหิน ซึ่งเป็นร้านที่คุณแฟน ชมนักชมหนา ดียังงั้นยังงี้จากเว็บรีวิว
ผม ติ ตรงชื่อร้านก่อนเลย ดูไร้ซึ่งความคิดสร้างสรรค์สิ้นดี กรั่กๆ
อาหารที่สั่ง ก็มีหอยเชลล์อบเนย แกงส้มปลาทู (หวังว่ามันจะอร่อยขั้นเทพ จากชื่อร้าน) 
อีกอย่างคือ ปลาหมึกแดดเดียว อาหาก็เสิร์ฟช้ากำลังดี ไม่ถึงกับหงุดหงิดมาก
(ช้าพอรับได้เพราะคนเยอะ)
สรุป : รสชาติก็ธรรมดาอะนะ กินเอาที่กรุงเทพฯก็ได้

กินเสร็จก็ขับรถไปที่โรงแรม อย่าไปใส่ใจมาก แค่โรงแรมธรรมดาๆเท่านั้น
ชื่อ Glory Hua-hin เป็นตึกสี่เหลี่ยมๆ ธรรมดาๆ ไม่ดีไม่แย่ก็คุ้มกะราคาแล้วล่ะ
ได้ราคา พันนิดๆต่อคืน จาก agoda ไม่มี Breakfast

ตอนเย็นออกไป Dinner ริมทะเลที่ร้านเจ๊เขียว ไม่ได้ถ่ายรูปมาแหะๆ
สั่งกับข้าวไป 3 อย่างเช่นเคย ตามสูตร n+1 
อาหารที่สั่ง แกงส้มไข่ปลาริวกิว ทอดมันปลาอินทรีย์ ยำหอยแครง
อาหารช้ามากกกก จนหงุดหงิด และไม่อร่อยคุ้มค่าแก่การรอคอย
แฟนบอกว่าหลังจากกินแล้วรู้สึกท้องไม่ค่อยดีอีกต่างหาก


Dinner เสร็จก็แวะทางผ่านขากลับที่นี่เลย Cicada Market ตลาดขายของทำมืออันโด่งดัง
แต่ไม่เคยซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านมาสักครั้ง (ไปมาจะ 5 ครั้งแระ)

เพิ่งรู้ว่าทีเด็ดของ Cicada นี่ไม่ได้อยู่ที่ ของทำมือ แต่มันคือ


วง "ปล้ำแรง" ใครที่ไปตลาด Cicada แล้วไม่ได้ไปฟังวงนี้เล่นคุณพลาดอย่างรุนแรงครับ
มัน ฮา มวากกกก โดยเฉพาะนักร้องนำหญิง ชื่อ แป้ง ดูเพลินๆจนลืมเวลาก็ล่อไปจะ 5 ทุ่มเลยทีเดียว


คุณ แป้ง คือ หญิงนักร้องนำเสื้อดำตรงกลางในรูปด้านบนอะคับ Mascot ของวงนี้เลยทีเดียว
ฮาตัวแม่่ :D


ภายในเวทีของวง ปล้ำแรง ก็จะมี Coctail กะ Soft drink ให้จิบแก้กระหาย
กลับบ้านโดยได้ความอิ่มเอมใจ จากตลาด Cicada เป็นครั้งแรก

วันรุ่งขึ้นก็ไปเพลินวาน โดยนั่งรถตู้บริการฟรีจากโรงแรม (มีดีก็ตรงนี้)


คือเพิ่งจะเคยได้ไป หลังเขาไปรึเปล่าหว่าเรา ทำได้สวยดีทีเดียว Classic มีไสตล์
อยากจะไปถ่ายรูปท่าบังคับที่ป้ายหน้าเพลินวานบ้าง แต่คนเยอะจริงๆ ถ่ายเอาห่างๆก็ละกัน


ทุกสิ่งทุกอย่างในนี้เป็นงานศิลปะจริงๆ จัดวางมาแบบได้องค์ประกอบแสงสีมาก
เข้ากันทุกอย่าง ทุกๆมุมเป็นที่ถ่ายภาพได้เลย ส่วนตัวเราก็ Snap กล้อง Lomo Fisheye ไปหลาย shot

อาหารที่นี่ก็จะเน้นอาหารพื้นๆตามท้องถิ่นที่อาจหากินที่ไหนไม่ได้
(แต่จะอร่อยรึเปล่าก็อีกเรื่องนึงน่ะนะ)
ราคาต่อหน่วยอาจจะดูไม่แพงมาก แต่ให้มาอย่างละนิดละหน่อย
รวมๆแล้วก็หมดไปหลายบาทอยู่ดีนั่นแหละครับ


เช่น Ice-Cream กะทิ Soft Serve ที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลก (แหม่ -_-)
รสชาติก็เหมือนไอติมกะทิรวมมิตรที่ใส่ถ้วย หรือ ขนมปังทั่วๆไปน่ะแหละครับ


ทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ดูจะมีสีสันของการออกแบบเต็มไปหมด
เป็นอะไรไม่รู้ที่ผมรู้สึกถูกใจกับถุงใส่ สัปปะรดธรรมดาๆ นี่เป็นพิเศษ
ถุงพลาสติกใสๆ กับ logo เพลินวานสีน้ำตาลเข้ม ช่างเหมาะเจาะ classic เสียนี่กระไร


มาต่อ Dinner ของวันที่ 2 กันบ้างเนาะ
พูดได้เต็มปากเลยว่า ที่นี่เราหาข้อมูลมาเยอะ เพราะกะจะสร้างความโรแมนติกซะหน่อย
มาลงตัวที่ร้านนี้ coco 51 เพราะร้านนี้ เน้นอาหารฝรั่ง ไม่เน้นอาหารทะเล
เข้าใจถูกต้องแล้ว เบื่ออาหารทะเลแล้วครับ แถมแฟนแพ้กุ้งกะปูอีก แทบจะหมด motivate ในการกิน


หิ้วไวน์ Bellagio จากกรุงเทพไปด้วย เพราะคิดอยู่แล้วว่าไวน์ที่นี่คงแพง 
แล้วก็เป็นดังนั้นจริงๆ ขวดนึงนี่พันกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ
ผมคอไม่สูงกิน ขวดละ 500 ที่คุ้นเคยก็พอแร้ว กรั่กๆ


มะ มาสั่งกันเลย
อาหารที่สั่ง เป็ดย่างราดซอสมะขาม , สปาเก็ตตี้ Oreo , หอยเชลล์ผักโขมอบชีส
ทางร้านก็จะให้ขนมปังทาเนย มาเป็นเครื่องเคียงอยู่แล้ว ไม่ต้องสั่งเพิ่มนะอิๆ
ราคาก็แพงธรรมชาติครับ อย่าไปสนใจ พยายามไม่มองราคาเวลาสั่ง กรั่กๆ


บรรยากาศร้านก็ดูดี โรแมนติคทีเดียว ถ้าจะนั่งโต๊ะริมทะเลต้องจองนะครับ
อย่าคิดว่ามาตายเอาดาบหน้าแล้วจะได้ ไม่ลำบากกันเกินไปก็จองเห๊อะ 


โต๊ะที่ผมจองได้เผอิญว่าเหลือตัวสุดท้ายริมทะเลพอดี ลมเย็น บรรยากาศดี
ได้นั่งมองพระจันทร์ดวงกลมโตกับชายฝั่งหัวหินอันสวยงาม

สรุป : กินบรรยากาศครับ อาหารและไวน์ไปกินที่ Wine Connection ที่ K-Village ดีกว่า
อร่อยกว่าหน่อย แถมถูกกว่าเยอะ

ดูแล้วจะมีแต่เรื่องกินเนาะ แถมที่กินแต่ละที่ก็ไม่ถึงกะดีซะด้วย
อย่างว่าครับ ไปพักผ่อน ไม่ได้เตรียมตัวอะไร หาอะไรเจอ ก็ไปที่นั่น
ใช้เวลานอนพักเป็นส่วนมากที่โรงแรม แม้โรงแรมไม่สวยเลิศเลอ แต่มันก็นอนสบายดีนะ :D

ความจริงขากลับได้ไปกินร้าน อยู่เย็น เป็นร้านที่อยู่แถวๆ ส้มตำ ถนนตก อันเลื่องชื่อ 
ขับรถเลียบถนนริมทะเลไปก็น่าจะเจอนะ
(เหน็บนิด ไอส้มตำนี่มันก็ส้มตำธรรมดาๆอะนะ ไม่เข้าใจว่าจะแห่มากินทำไม
คำตอบเดิมครับ หากินร้านอร่อยๆที่กรุงเทพฯก็ได้)

ร้านอยู่เย็น เป็นร้านในหัวหิน ที่ผมยอมรับว่า อร่อย จากใจจริง
ราคาก็พอๆกันกับร้าน sea food ที่มีอยู่อย่างดาดดื่นทั่วไป
ขออภัยที่ไม่มีรูปเพราะตอนที่ไปกินก็กะจะไปกินอย่างเดียวจริงๆ แล้วก็ไม่ผิดหวัง

อาหารที่สั่ง ผัดเผ็ดทะเล แกงส้มกุ้งชะอม หอยอยู่เย็น
อร่อยหมดเลยครับ แกงส้มที่ดูธรรมดารสชาติก็เข้มข้นลงตัวแบบที่ผมชอบเลย

สุดท้ายนี้ก็อยากฝากเตือนสติไว้ว่า ไปเที่ยวแต่ละที่ คุณต้องการแบบไหน
ตะลอนไปตามสถานที่ดังๆ ต่างๆ หรือ ต้องการพักผ่อน ชิวๆ
ถ้าต้องการพักผ่อน จะนอนโรงแรม กินอาหารโรงแรม
กินอาหารใกล้ๆ กิน Pizza Company กิน Sissler แล้วจะทำไม
อาหารดังๆในพื้นที่บางร้าน ไม่เอาอ่าวก็มีเยอะไป

ทำตามที่ใจต้องการเป็นพอ :)

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม