การใช้โทรศัพท์ และ Internet ที่ประเทศญี่ปุ่น

เพิ่งมีโอกาสไปญี่ปุ่น เพื่อไปดูงานกับทางคณะที่กำลังเรียนโทอยู่ครับ หนึ่งในปัญหาสำคัญของคนที่จะไปญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนมีแฟน นั่นคือเราจะติดต่อกลับไทยยังไง เพราะระบบโทรศัพท์ของ ญี่ปุ่นจะต่างกับไทยโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องพูดถึงการเปิด Roaming เพื่อโทรติดต่อกันเลยครับ แพงมาก (อัตราค่าโทรลองเช็คกับผู้ให้บริการเองนะครับ) ทางเลือกที่ดีกว่าคือเปิด Data Roaming ที่มีอัตราย่อมเยาว์กว่าหน่อย
เช่นผมที่ผมใช้ DTAC อยู่ก็จะมีอัตราดังภาพด้านล่าง



รูปประกอบจาก http://www.dtac.co.th/postpaid/services/roaming/roaming350.html

ก็ยังจัดว่าราคาโหดอยู่ดีใช่ไหมครับ แถม Data ของ DTAC ที่ให้ต่อวันก็ค่อนข้างจำกัด เช่น ถ้าใช้ 1 วันก็อยู่ที่ 25MB ต่อวันเท่านั้น แป๊บๆเดียวก็หมดแล้วจริงๆครับ ผมลองใช้แล้วแป๊บเดียวหมดไม่ถึงวัน ขนาดว่าไม่ได้ดูรูปอะไรเยอะ โดยอัตราการใช้งานทาง DTAC จะมี APP ไว้ให้คอยเช็ค ลองหาโหลดได้ตาม Play Store, App Store ตอนที่ผมสมัครก็จะมี Wifi Roaming ให้ด้วย เผื่อเจอ hotspot ของเจ้าที่ DTAC ร่วมบริการ ก็จะสามารถใช้ได้ฟรีๆครับ ใช้ App เพื่อต่อ Wifi ตามภาพล่างเช่นกัน



รูปประกอบจาก Google Play Store

ทั้งนี้หากใช้เครือข่ายอื่นเช่น True หรือ AIS นั้นจะเป็น Unlimited Package แต่มีข้อจำกัดที่ว่า ต้องรีบ fix เครือข่ายที่จะ Roaming ด้วยนะครับ เรื่องนี้ให้สอบถามกับ Call Center ให้ดีก่อนไป ไม่งั้นจะพลาดเหมือนหลายๆคนที่โดนกันไปเป็นแสน ถ้าเป็น DTAC จะปลอดภัยหน่อยที่สามารถใช้ Promotion Roaming ได้ทุกเครือข่าย


ส่วนคำถามที่หลายๆคนถามคือ แล้วญี่ปุ่นมี Free Wifi เยอะมั้ย? เท่าที่ผมเจอคือภายในสนามบินครับ ออกมาข้างนอกไม่เคยจะได้ใช้เลยเหอๆ ทั้งๆที่ย่านที่ไปคือชินจูกุแล้วนะ โรงแรมมันยังไม่มี Wifi ให้ที่ห้องเลยครับ ต้องมานั่งเ่ล่นที่ Lobby

แต่ถ้าลองสมัคร Free Wifi ไว้ก็ไม่เสียหลายนะครับ เผื่อโชคดีไปเจอ
ลองไป pre-registeration ไว้ครับ จะได้ไม่เสียเวลา

ถ้าอยากจะเปลี่ยน SIM บ้างทำไม่ได้หรือ? เมื่อก่อนการซื้อ SIM ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างยากครับ ต้องลงทะเบียน และใช้ขั้นตอนพอสมควร แต่เดี๋ยวนี้มีบริการสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการจะใช้ Internet data plan ที่ถูกกว่า Roaming นั่นคือ SIM สำหรับนักท่องเที่ยวและบริการเช่า Pocket Wifi นั่นเองครับ

การเช่า Wifi นั้นมีบางเจ้าสามารถรับเครื่องที่เป็นสาขาจากไทยได้เลย ทำให้สะดวกกว่าที่จะต้องไปตายดาบหน้าที่ญี่ปุ่น เวลาคืนก็เอาเครื่องมาส่งคืนที่ไทยครับ (ผมไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่ได้ใช้)

อีกวิธีที่แพร่หลายคือ สั่งกับบริษัทให้มาส่งที่โรงแรมหรือสนามบิน แล้วเค้าจะแนบซองส่งพัสดุกลับมาให้ด้วย เวลาจะกลับไทย ก็เอาหย่อนซองลง Post Office ได้เลยครับ สะดวกไปอีกแบบ

ส่วตัวผมนั้นคิดว่า Pocket Wifi นั้นค่อนข้างแพง แม้ว่าความจริงแล้ว หารกันหลายๆคน ก็จะกลายเป็นราคาไม่กี่บาท แต่ด้วยความที่อยากเป็นส่วนตัว ก็อดไม่ได้ที่จะอยากได้ SIM เอาไว้ใช้ เมื่อกลับจากญี่ปุ่นก็ทิ้งได้เลยครับ ไม่ต้องคืนให้มันวุ่นวาย

ทางออกที่จะซื้อ Traveler SIM (ใช้เล่น Internet ได้อย่างเดียว โทรเข้า รับสาย ส่งข้อความไม่ได้นะ)
ที่นิยมกันมี 2 ที่ครับ นั่นคือ

1. B-Mobile
http://www.bmobile.ne.jp/english/1gb.html

2. eConnect Japan

ภาพจาก http://www.econnectjapan.com/

ผมเลือกที่จะใช้บริการจาก eConnect Japan ครับ เนื่องจากตัว Website ค่อนข้างสะอาดตา เข้าใจง่าย ตรงประเด็นสำหรับนักท่องเที่ยว และได้ลอง e-mail สอบถามรายละเอียดก็พบว่าตอบเร็วใช้ได้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี ราคาแพงกว่า B-Mobile แต่แลกกับการบริการก็คุ้มครับ ต้องจ่ายเงินผ่านทาง Paypal นะครับ ก็สะดวก ปลอดภัยดี เสียอย่างที่ตอนนี้มีแค่ SIM ขนาดปกติกับ Micro SIM เท่านั้น
ถ้าใช้ Nano SIM ต้องซื้อจากทาง B-Mobile ล่ะครับ การซื้อจะมีคิดค่าส่งเป็นครั้งนะครับ ค่าซิมซิมละ 4,100 เยน + ค่าส่งอีก 790 เยนต่อครั้ง เพราะฉะนั้นถ้าสั่งกันหลายๆคนก็รวมๆกันสั่งทีเดียวจะดีกว่า ผมเคยสั่งแล้วขอเพิ่ม เพราะไม่อยากจะสั่งใหม่ทางเว็บที่จะต้องชาร์จค่าส่งอีกครั้ง ติดต่อไปทางเมล์เค้าก็รีบส่ง link paypal แยกมาให้อีกครั้งทันที ถึงได้บอกว่า service ค่อนข้างดีครับ

ตอนส่งควรจะเช็คกับโรงแรมให้ดีนะครับว่าชื่อที่จองเป็นชื่ออะไร เราควรจะใส่ส่งถึงให้เป็นชื่อในรายการจองของโรงแรมนะครับ ไม่งั้นโรงแรมอาจจะไม่ยอมรับพัสดุจาก eConnect ได้ ผมมีปัญหาที่ว่า Group Tour นั้นไม่ยอมบอกซะที ต้องวานให้คนที่ไปก่อน ไปเจรจากับทางโรงแรมไว้ก่อน (โรงแรมมันก็ไม่มี e-mail ให้ติดต่อซะนี่ -_-") ทาง eConnect ก็ช่วยประสานให้โดยเค้าจะเขียนจ่าหน้า ตามที่เรา comment ไปให้


เมื่อไปถึงก็ลุ้นเล็กน้อยว่าโรงแรมจะเก็บพัสดุเอาไว้มั้ย เจรจากันสักพักเค้าก็เข้าไปหยิบมาให้เป็นซองดังที่เห็นครับ โล่งใจ! set ค่า APN อีกเล็กน้อยตามที่ระบุไว้ในคู่มือที่แนบมาให้ สัญญาณไม่มีไม่ต้องตกใจครับ เพราะมันโทรไม่ได้ เอาให้สัญลักษณ์ Internet ขึ้นก็พอ

ลองแล้วใช้กันได้หมดทั้ง iPhone และ Android ครับไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องความเร็วนั้น ตามเว็บก็บอกว่าทำได้สูงสุด 14 Mbps แต่ให้ตายเถอะ ไม่เคยใช้โทรคุยผ่าน Line ได้เลยครับ ทำได้แค่ส่งข้อความแหละนะ  แต่น่าแปลกใจที่ความเร็วเข้าเว็บก็ไม่น่าเกลียด ไหงโทรคุยไม่ได้ก็ไม่รู้

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ ผิดพลาดประการใด Comment มาได้ จะได้แก้ไขให้ครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม