UK Trip (1/3) : VISA and London

ถึงเวลาที่ต้องบันทึกการเดินทางอันโหด มันส์ ฮา ที่ได้ไป London และเมืองอื่นๆไว้สักหน่อย เผื่อเป็นข้อมูลให้คนอื่นๆที่กำลังตัดสินใจไว้เป็นข้อมูลด้วยนะคร้าบ แบ่งเป็นสองตอนจะได้ไม่ยาวไป จะพยายามไล่ตั้งแต่ขอ VISA เลยนะ ดังนั้นจะยาวแน่นอน ใครมีข้อสงสัยตรงไหนถามมาได้นะ

1. การขอ VISA จะเป็นระบบ online เพราะที่พิจารณาคือ India ส่วน vfs ในไทยมีหน้าที่แค่แสกนเอกสารของเราส่งไปให้เท่านั้น อย่าหวังว่าเค้าจะตอบคำถามเราได้มาก

2. แม้ว่าไปยื่นด้วยกันเป็นกลุ่ม แต่เอกสารต้องแยกคนละชุดเพราะต้องแสกนทีละคน แม้ว่าเอกสารนั้นจะซ้ำกัน นี่เป็นจุดขัดแย้งกับเอกสารทางการของสถานฑูต uk

3. ค่าถ่ายเอกสารที่ vfs แพง ควรถ่ายไปก่อนให้ครบๆ แผ่นละ 6 บาทมั้ง

4. โรงแรมและตั๋วเครื่องบินไม่ต้องจองก็ได้ แต่เราต้องกรอกที่อยู่ใน UK ตอนกรอก visa ก็หาที่อยู่สักโรงแรมกรอกไป เจ้าหน้าที่ vfs จะชอบถามว่ามีแนบมาไหมก็ไม่ต้องแคร์ บอกไปว่ากรอกใน visa แล้ว

5. statement 6 เดือนสำคัญกว่าจดหมายรับรอง ต้องให้เค้ารู้ว่าเรามีเงินมานานแล้วมีที่มาที่ไป

6. เงินในบัญชีก็ให้พอ cover budget ตอนที่กรอก visa ก็พอ พวกค่าเครื่องบิน ค่ารถ ค่ารร. หรือคนที่เราเป็น sponsor ให้

7. sms แจ้งผล ความจริงแล้วไม่ต้องสมัคร (เสียตัง) ก็ได้ เพราะสถานทูตจะแจ้งผ่านเมล์ทุกคน โดนเจ้าหน้าที่ vfs หลอกให้เสียตังมาแล้วว่าไม่มีแจ้งใดๆ

8. ยื่นพร้อมกัน ไม่จำเป็นว่าจะได้เล่ม passport คืนมาพร้อมกัน ไม่ต้องตกใจ ผมยื่นไป 4 คนมันให้คืนมาคนละวัน เล่นเอาลุ้นชิบหาย

9. ต่อเครื่อง emirate ที่ดูไบสนามบินใหญ่มาก เผื่อเวลาต่อเครื่องสักสาม ชม. กำลังดี ระวังเรื่อง gate ให้ดี เช่น gate Axx กับ Bxx ห่างกันคนละ terminal ต้องนั่งรถไฟไป เกือบจะนั่งชิวที่ gate B แระ เก้าอี้นอนเยอะดี -_-"

10. ที่ UK เป็นระบบ cashless แทบทั้งหมด เน้น paywave สะดวกมากไม่ต้องพกเงินสด ทำ KTB travel card หรือ TMB all free ซะ จะได้ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ ใช้บัตรเครดิตแตะขึ้นรถไฟ/ Tube ได้เลยไม่ต้องไปซื้อบัตร Oyster มี cap ต่อวันเหมือนกัน ผมกับแฟนใช้เงินสดรวมกันไม่ถึง 50 GBP

11. ที่พัก London ถ้าอยากประหยัดหน่อยก็พัก Zone 2 เสียเวลาเพิ่มขึ้นนิดตอนนั่งรถไฟเข้าเมือง แต่ก็ไม่วุ่นวายดี แต่ก็ต้องทำใจว่าที่พัก London จะแพงเป็นพิเศษถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆ เทียบจากราคาต่อระดับความหรูหราที่ได้

12. Big Ben ปิดซ่อมยาวๆไม่ต้องไปก็ได้ แทบจะไม่เห็นอะไร จะได้ไม่ต้องเดินฝ่าคนไกลๆจาก Bucking ham

13. Tower of London ส่วนตัวคิดว่าเฉยๆ แอบรู้สึกไม่ค่อยคุ้มค่าเข้า (30.3GBP แพงกว่าที่อื่นๆ) ค่าเข้า landmark ที่ UK แพงแบบเล่นเอาสตั๊นทั้งนั้นนะ เฉลี่ยตกคนละ 21 GBP แต่จะมีส่วนลดถ้าเป็นนักศึกษาที่ UK ใครมีญาติเรียนอยู่ก็อย่าลืมให้พกบัตรนักเรียนไป วางแผนให้ดีๆว่าจะเปย์ที่ไหนบ้าง เตรียมตังค์ใส่ travel card ให้พร้อม อิๆ

14. องุ่น seedless ถูกและอร่อย ซื้อ super market ครึ่งโลเป็นกล่องแค่ 1GBP ซื้อกินมันทุกวัน คุณภาพเท่ากะที่ไทยราคาประมาณ 250-300

15. เที่ยงไหนอยากประหยัดแวะเข้า convenient store หาป้าย Meal Deal มันจะรวมมื้อหลักพวก sandwich/pasta, snack/fruit, drink ในราคา 3GBP

16. พวก Museum เข้าฟรี ได้ไป British museum ก็ใหญ่ดี ของเยอะ แต่รู้สึกไม่ค่อยอินเท่าไร ได้ข่าวมาว่า Natural history museum น่าจะดีกว่า

17. ถ้าจะกิน Duck and waffle ต้องจองล่วงหน้าเดือนนึงผ่านเว็บ แล้วมันจะเมล์มาให้ตอบคอนเฟิร์มอีกทีตอนใกล้ๆ อย่าลืม dress code ต้องเป็น smart casual นะ เรื่องมากชิบหาย จองแล้วไม่ไปหักตังอีก วิวสวยดีถ้าได้นั่งใกล้หน้าต่าง รสชาติก็กินเอาแปลก ไม่ได้อร่อยถึงขนาดอ้วกเป็นสายรุ้ง

18. Tube ใน london ค่อนข้างเล็ก แออัด เทียบกันแล้ว BTS บ้านเราก็ไม่เลวนะ ฮ่าๆ ใครคิดจะแบกกระเป๋าใหญ่ๆขึ้น Tube แนะนำให้คิดดีๆ

19. จริงๆแล้วรู้สึกได้เลยว่าไม่ค่อยชอบอยู่ London มันรู้สึกเมืองๆ วุ่นวาย แออัด เดินเหนื่อย ถ้ากลับไปวางแผนอีกคงลดวันที่ London ให้น้อยกว่านี้ ไปเพิ่มนอกเมืองแทนดีกว่า

จบละตอนแรก พอแค่นี้ก่อน รู้สึกตันๆไม่รู้จะเขียนอะไรเกี่ยวกะ London รอบหน้าจะเขียนเรื่องการขับรถไปนอกเมืองกะที่เที่ยวในชนบทบ้าง