Uk trip (3/3) : Road trip to Upcountry & Tax refund issues



มาถึงตอนสุดท้ายสักที ต้องรีบเขียนเพราะไม่งั้นจะลืมหมดแล้วว่าไปทำอะไรมาบ้าง และเพิ่งเจอประสบการณ์การปรับย้อนหลังมาสดๆร้อนๆ ที่อยากจะเตือนทุกๆคนไว้ก่อนด้วย เมืองที่ไปจะเป็นโซนตะวันตกจาก London นะครับ เนื่องจากเวลาจำกัด ก็ไปได้เท่านี้แร

1. บริเวณแถบที่พัก South Cerny เค้าจะเรียกว่า Cotswold AONB ซึ่งเป็นคล้ายๆ วนอุทยานอารมณ์คล้ายๆเขาใหญ่ ซึ่งธรรมชาติแถวนี้ดีมาก ร่มรื่น สวยยยย ขับรถเพลินนนนจริงๆ ได้เห็นวิวแบบที่เคยเห็นใน Windows XP wallpaper เชื่อว่าทุกๆคนน่าจะจำได้ แค่ขับรถเที่ยวเล่นแถวนี้ก็คุ้มแล้ว

2. ออกจากที่พักเพื่อที่จะไปหมู่บ้าน Arlington Row (ฺBibury)ในตำนาน คือ google maps มันพาไปทาง local มากๆ ต้องไปลงเนินแคบๆ ตรงไปที่โซนบ้านเก่า มาถึงทางตันตรงฝั่งแม่น้ำ แนะนำว่าให้ปักไปหยุดฝั่งถนนใหญ่ เพราะตอนออกทางนี้ลำบากมาก

3. Arlington row เป็นโซนบ้านเก่าที่ไม่ใหญ่ เป็นบริเวณเล็กๆที่เดินไม่เท่าไรก็หมดแล้ว แถวๆนั้นมี Trout farm & cafe ที่ขายปลาเทร้าท์รมควัน และ handmade ครีมและแยม ที่กินกับ สโคนอรอ่ยมั่กๆ ปล. ร้านทำนานมากกกกก ถ้าหิวๆนี่อยากจะเผาร้านทิ้ง ให้บอกเลยว่าเอา อาหารมาพร้อมกันให้หมด

4. แต่บรรยากาศมันชิวดีมากจริงๆ อยู่เพลินจนลืมเวลา มีมุมถ่ายรูปเต็มปายหมดเลย

5. ออกจาก Arlington Row ก็ขึ้นไปต่อข้างบนอีกนิดเป็นเมือง Bourton on the water ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆอีกเหมือนกัน ที่บรรยากาศชิวไม่แพ้กัน แต่อันนี้จะได้อารมณ์เมืองจริงๆที่มีคนอยู่อาศัย ไม่เหมือน Arlington Row ที่คล้ายๆกับหมู่บ้านจัดโชว์

6. จริงๆถ้ามีเวลาอยู่ที่เมืองนี้น่าจะได้อารมณ์เรื่อยเปื่อยกว่า ออกโรแมนติคนิดๆเพราะมีแม่น้ำไหลผ่ากลางเมือง น้ำไสมาก สวยๆเพลินๆ

7. ต่อจากนั้นไปที่ Bristol เพื่อแวะเข้าพักในคืนนี้ เมืองนี้ปกติไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไร แต่เพื่อนแนะนำว่าถ้าจะไป Bath ให้พักเมืองนี้เพราะไม่ไกลจาก Bath มากนัก (ขับรถไม่เกินครึ่ง ชม) และที่พักถูกกว่ามาก

8. Bristol มี Landmark คือสะพานแขวนยักษ์ Clifton Bridge ที่อลังมากกกกก จริงๆ ควรวางแผนหาจุดจอดให้ดี ถ้าจะแวะชมเพราะรถแน่น มันต้องขับขึ้นสะพาน จ่ายตังค่าผ่านออกไปเลย คนขับรถแทบจะไม่ได้เห็นอะไรเพราะตาต้องมองข้างหน้า แม่ก็อุตส่าห์มาปลอบใจว่า สะพานมันอลังการ สวยมากนะ (ขอบคุณมากๆครัฟฟ T-T)

9. Bristol เป็นเมืองที่เนินเยอะมากกก ค่อนข้างชัน เหมือนสร้างบนภูเขา คือเป็นจุดทดสอบ skills การขับ จอดขึ้นเนินได้เป็นอย่างดี

10. ไอ้เราก็มั่นใจในฝีมือระดับนึง ย่ามใจว่ารถมีเบรคมือไฟฟ้า เหยียบคันเร่งมันก็ถอนให้แล้ว สบายๆ เจอปราบเซียนตอนถอยหลังขึ้นเนินนี่แหละ เฮ่ย แม่งไม่ปลดเบรคมือให้ แล้วมันจะยากมาก คือต้องเหยียบเบรคก่อน กดปลดเบรคมือ และต้องปล่อยคลัชเข้าเกียร์ถอยหลังโดยพลัน ไม่ไหวคับ ไหล แม่และเมียต้องเอาหินมาช่วยห้ามล้อ

11. พักที่ Bristol ราคาเท่า London Zone 2 แต่ได้อยู่แบบราชา บ้านดีมากกกก อยู่สบายกว่าบ้านตัวเองอีกฮ่าๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆก็เลิศ

12. ถ้าจะซื้อของกินมี Super Market ที่อารมณ์คล้ายๆ Tesco Lotus แบบ stand alone บ้านเรา อยู่นอกเมือง ที่จอดรถฟรี ชื่อ Asda อาหารถูก ซื้อเนื้อปรุงรสต่างๆมาอบ แซ่บอย่าบอกใคร (ส่วนใหญ่บ้านที่ UK จะมีเตาอบให้)

13. พักผ่อนแบบสบายใจที่ Bristol ก็ขับรถไปที่ Bath เมืองที่เป็น destination ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ใช้เวลาแค่ครึ่ง ชม. เท่านั้น เวลาไปให้ search ที่จอดรถเตรียมไว้ก่อนเลย ส่วนใหญ่เป็นแบบจ่ายล่วงหน้า ก็ต้องกะเวลาเผื่อไปให้ดี

14. มาถึง Bath โอ๊ยยย มันสวยงามและเพลิดเพลินนมาก เอาจริงๆตอนแรกไม่คิดว่ามันจะมีอะไร แค่เป็นเมืองแบบโรมัน แต่ด้วยบรรยากาศที่ครึกครื้นและการจัดวางผังเมือง การอนุรักษ์สถาปัตยกรรม มันทำให้ลืมเลือนเวลาที่อยู่ตรงนั้นเลยจริงๆ มี Street performer มาเล่นดนตรีไม่ขาดสาย

15. สถานที่ popular คือ Roman Bath แต่ไม่ได้เข้าเพราะแพง ฮ่าๆ ราคาค่าเข้ามาตรฐาน เราเลยไปรษณีย์ขึ้นหอนาฬิกาของ bath Abbey แทน ได้เห็นวิวมุมสูงของทั้งเมือง สดชื่นดีมากๆ ซึ่งมีจัดเป็นรอบๆ แบบจำกัดคน ต้องไปจองก่อนนะ

16. ออกจาก bath ก็ตรงไป Stonehenge เพราะเป็นทางผ่านไปแวะพักที่ Reading พอดี ไกลเหมือนกันกว่าจะถึง ไปถึงก็ผงะกะค่าเข้าอีกที แต่ไหนๆก็มาถึงแล้ว จริงจัดไปซะหน่อย แฟนถึงกับหน้าตูดว่าจ่ายกันคนละพันกว่าบาทเพื่อไปดูก้อนหินกองๆทำไม

17. ข้างในมีรถบัสรับส่งไปดู Stonehenge อีกที คือไกลจากจุดจอดรถมากอะ เหมือนกลัวว่าคนจะขับเข้าไปดูเองแล้วไม่ได้ค่าบัตรมั้ง คือไปดูมันก็ได้ความรู้สึกว่าเออ ก็ได้เห็นแล้วอะนะ มีรั้วกั้นรอบๆ เราไม่ได้ไปสัมผัสกับหินนะ

18. จากนั้นไปพัก Reading เพื่อไปแวะชม U ที่น้องชายเรียนอยู่เล็กน้อย U เมืองนอกนี่ก็ดีนะ มี bar ให้กินเบียร์นั่ง chill กันข้างในเลย

19. ที่ Reading นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก เพราะดูเป็นเมืองธุรกิจเป็นแค่ทางผ่านที่พักจะไปเที่ยว Windsor อีกในวันรุ่งขึ้น ซึ่ง Windsor เป็นสิ่งที่ underrated มากๆที่ไม่ค่อยเห็นใครพูดถึง windsor Castle ดูยิ่งใหญ่กว่า London tower หลายเท่านัก ถ้าย้อนเวลาได้เก็บตังข้าเข้ามาที่นี่ดีกว่าฮ่าๆ เมืองก็อยู่กลางๆระหว่างความครึกครื้นแบบ Bath และความเงียบของ Reading ร้านขายของมีเยอะเหมือนกันมีเดียว สวนสาธารณะสวยๆเต็มเมือง นาจะพักที่นี่มากกว่า Reading อีก

20. มาถึงวันกลับก็ขับรถตรงไปคืนที่สนามบิน Gatwick เลย ซึ่งที่สนามบินจะมีป้ายให้รถเช่าขับไปจอดคืนโดยเฉพาะ แต่ของ Avis กันมีอยู่ที่ South terminal ที่เดียว ตอนแรกไปที่ North กันมาติดป้ายตรงตู้ office ว่าให้ไปคืนที่ South แหม่ มึงจะบอกกุก่อนไม่ได้เหรอ

21. เจ้าหน้าที่รับรถก็ไม่ค่อยจะซีเรียสอะไร ดูรอบๆผ่านๆ รอยบุบลักยิ้มก็ไม่ทักสักแอะ ก็ค่อนข้างประทับใจกับการเช่ารถครั้งนี้

22. การทำ tax refund ที่ UK ค่อนข้างยุ่งยากมาก ถึงแม้จะได้เงินคืนมาแล้ว ก็ต้องส่งใบเสร็จให้กับเจ้าหน้าที่ customs พร้อมแสดงสินค้าทุกชิ้นที่ทำ tax refund มาตอนนี้เพิ่งเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ที่ outlet บอกให้ทำก่อน check in แต่คือมึงก็ควรจะบอกไงว่ามันต้อง แสดงให้เจ้าหน้าที่เห็น ไอ้เราพอถามเจ้าหน้าที่สนามบินก็บอกทำทีหลัง check in ก็ได้ โดนปรับค่า tax คืนจากบัตรเครดิตหลังกลับมาไทยอีก T-T ถ้าไม่ได้เยอะก็ไม่ต้องทำแม่งหรอก คิวก็ยาว เจ้าหน้าที่ก็พูดกระแทกแดกดัน

23. เสียค่าปรับย้อนหลังอีกรอบจาก congestion charge ก็ระวังกันให้ดีนะจ้ะตอนขับรถใน London นี่ก็อุตส่าห์ระวังกันแล้วน้า

จบแล้วเน่อ เก็บไว้เป็นบันทึกความทรงจำที่ไป UK โดยรวมๆก็ประทับใจกับบรรยากาศชิวๆนอกเมือง เห็นแล้วอยากไปใช้ชีวิตเลี้ยงแกะเลี้ยงวัวที่โน่น ได้ค้นพบว่าชอบการขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ มีโอกาสก็อยากไปอีกทีก่อน visa หมดนะฮ่าๆ คราวนี้จะเน้นที่ scotland, highland โดยเฉพาะเลย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม